ผลลัพธ์การศึกษา (Educational Outcomes)
เป้าหมายของการศึกษา คือ การที่ผู้เรียนบรรลุผลลัพธ์ทางการศึกษาหลังจากผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับหลักสูตร ผลลัพธ์ทางการศึกษาประกอบด้วย 6 ด้าน ที่ผู้เรียนจะต้องแสดงให้เห็นว่าตนมีความสามารถและสมรรถนะต่าง ๆ ตามที่กำหนด และแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 : ปัจจัยแห่งความสำเร็จทางวิชาการ (Academic Achievement Factors - AAFs)
ผลลัพธ์การเรียนรู้รายวิชา (Course Learning Outcomes - CLOs)
ส่วนนี้เป็นความสามารถทางปัญญาของผู้เรียน (cognitive ability) ในการจัดกระทำกับองค์ความรู้ ทั้งในมิติของการระลึกรู้หรือจำได้ และการนำไปใช้ประโยชน์อย่างมีคุณค่าและความหมายด้วยความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
ทักษะการคิดและทักษะการปฏิบัติ (Thinking Skills & Practical Skills)
ส่วนนี้เป็นกลยุทธ์ทางปัญญา (cognitive strategies) คือ ความสามารถในการคิดที่หลากหลายและการปฏิบัติซึ่งประกอบด้วย
- การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (การคิดวิเคราะห์และประเมินค่า)
- การคิดสร้างสรรค์ (การคิดจินตนาการและสร้างสรรค์)
- การคิดเชิงปฏิบัติ (การคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจ)
- การปฏิบัติที่ต้องลงมือกระทำทั้งโดยอาศัยส่วนต่าง ๆ ของร่างกายรวมทั้งการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม
ทักษะการสื่อสาร (Communication skills)
ส่วนนี้เป็นกลยุทธ์ทางปัญญา (cognitive strategies) เช่นกัน คือ ความสามารถที่ผู้เรียนจะนำเสนอและถ่ายทอด (presentation) ความเข้าใจในแนวคิดและรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ตนรู้เพื่อให้ผู้รับสารทั้งที่อยู่ในและนอกสาขา (techies & non-techies) เข้าใจในสาระเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน และ แปลความ (interpretation) แนวคิดหรือมุมมองของผู้ส่งสารในสารสนเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้าใจความหมายที่ลึกซึ้ง และให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนร่วมโดย
- การเขียน
- การพูด/นำเสนอ
- การอ่าน/การฟัง/การมองภาพ
กลุ่มที่ 2 : ปัจจัยหนุนเสริมความสำเร็จทางวิชาการ (Academic Achievement Supporting Factors - AASFs) HoM+
อุปนิสัยจิตแห่งการเรียนรู้ (Learning Habits of Mind - LHoM)
อุปนิสัยจิตนี้ประกอบด้วย 2 อุปนิสัยหลัก ๆ คือ
- การเรียนรู้ด้วยการนำตนเองด้วยการกำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ เลือกกระบวนการ วิธีการ ค้นคว้าแหล่งทรัพยากร นำไปปฏิบัติให้เกิดผลประเมิน และสะท้อนคิดตนเอง (self-reflection) อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เข้าร่วมประสบการณ์ใหม่เนื่องด้วยมองเห็นโอกาสในการเรียนรู้อยู่เสมอ
- การคิดริเริ่มสิ่งใหม่ พร้อมอยากรู้ และค้นหาแนวคิดจากประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมทั้งขวนขวายลงมือ ปฏิบัติบนพื้นฐานของการคิดบวก
อุปนิสัยจิตแห่งการอยู่ร่วมและการปฏิบัติงาน (Working and Living Together Habits of Mind - WLHoM)
อุปนิสัยจิตนี้ประกอบด้วย 3 อุปนิสัยหลัก ๆ คือ
- การตอบสนองและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเต็มที่โดยไม่รีรอซึ่งก่อให้เกิดผลทางบวกทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
- การทำงานที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุผลสำเร็จตามที่คาดหวังโดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากและเข้าใจอยู่เสมอว่ายิ่งงานมีความยากเพียงใดตนเองก็จะได้เรียนรู้มากขึ้นเพียงนั้น
- การประพฤติตนตามระเบียบและกฎ/ข้อตกลงของชุมชนและภาระรับผิดชอบตนเองอย่างเต็มที่ในสิ่งที่จะเกิดผลกระทบต่อผู้อื่น
อุปนิสัยจิตแห่งการรู้คิดในตน (Metacognitive Habits of Mind - MHoM)
อุปนิสัยจิตนี้แสดงถึงการกำกับความคิดหรือการทวนสอบความคิดของตนเองเกี่ยวกับเป้าหมาย กลยุทธ์หรือแนวทางที่จะทำให้บรรลุ หรือแผนงาน รวมทั้งตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้เทียบกับแผนงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ตนเองมั่นใจว่ามาถูกทิศทาง สิ่งที่ตนเองเข้าใจมีความถูกต้อง และตนเองได้เรียนรู้จากสิ่งนั้น
มาตรฐานการประเมินการเรียนรู้ (Learning Assessment)
หลักการประเมิน
การประเมินเป็นไปเพื่อเสริมแรงและส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุผลลัพธ์ทางการศึกษาและให้คุณค่ากับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนผู้เรียนมีความรอบรู้ (mastery of learning)
การประเมินจะเป็นไปอย่างเข้มข้น ชัดเจน และเป็นธรรม เพื่อระบุความสามารถของผู้เรียนแต่ละบุคคล (personalized learning)
การประเมินต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดง ความสามารถหรือสิ่งที่ได้เรียนรู้ และได้รับโอกาส การพัฒนาตนเองผ่านการป้อนกลับ (feedback) และ การสะท้อนตนเอง (self reflection)
การประเมินต้องคงไว้ซึ่งมาตรฐานทางวิชาการทั้งรายวิชา หลักสูตร และเป้าประสงค์ของการศึกษา
การรายงานผลการประเมิน (assessment report) ต้องแยกระหว่างปัจจัยกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ให้ชัดเจน
ผลการประเมินผลลัพธ์ทางการศึกษา ปัจจัยกลุ่มที่ 1 เท่านั้นที่ควรถูกนำเข้าสู่กระบวนการตัดเกรด (grading) ทั้งนี้หากจะแสดงเกรดของปัจจัยกลุ่มที่ 2 ก็สามารถทำได้แต่ต้องแยกให้ชัดเจนและไม่นำมารวมกันตามรายละเอียดในข้อที่
แนวทางการประเมิน
การประเมิน การประเมินความสามารถของผู้เรียนตามปัจจัยกลุ่มที่ 1 จะยึดตามเส้นโค้งการเรียนรู้แบบกำลัง (learning curve by power-law) และมีเกณฑ์การประเมินการเรียนรู้ (learning criteria) 3 ส่วน คือ
1) เกณฑ์ผลงาน (product criteria) : สะท้อนให้เห็นว่าผู้เรียนบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ (CLOs) หรือสมรรถนะที่เฉพาะเจาะจง การบรรลุจะพิจารณาจากหลักฐานการเรียนรู้ เช่น การสอบ การทำงานมอบหมาย โครงการ หรือรายงาน ฯ
2) เกณฑ์กระบวนการ (process criteria) : อธิบายพฤติกรรมหรืออุปนิสัยจิต (habits of mind) ของผู้เรียนที่เอื้อหรือส่งเสริมการเรียนรู้ การบรรลุจะพิจารณาจากพฤติกรรมมืออาชีพ เช่น การมีส่วนร่วม การทำงานร่วมกัน ความรับผิดชอบ ความพากเพียร
3) เกณฑ์ความก้าวหน้า (progress criteria) : แสดงให้เห็นว่าผู้เรียนได้เพิ่มพูนการเรียนรู้ของตนมากน้อยเพียงใด เกณฑ์นี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเกณฑ์ผลงานแต่มีจุดเน้นสำคัญ คือ การที่ผู้เรียนใช้ผลป้อนกลับ (use of feedback) ทั้งจากผู้สอนและ/หรือเพื่อนในการพัฒนาการเรียนรู้หรือผลงานของตนให้ก้าวหน้าหรือดียิ่งขึ้น
กรณีเกณฑ์ผลงาน ผู้เรียนแต่ละบุคคลสามารถรับการประเมินได้ในช่วงการประเมิน (assessment period) ทั้งนี้ต้องไม่น้อยกว่า 3 ครั้งในแต่ละผลลัพธ์การเรียนรู้ ตามที่กำหนดไว้ในแบบบันทึกความก้าวหน้าในการเรียนรู้ ทั้งนี้ผู้เรียนสามารถรับการประเมินได้ใหม่ในผลลัพธ์การเรียนรู้นั้นหากผลที่ได้ยังไม่แสดงให้เห็นถึงการบรรลุระดับที่คาดหวังโดยที่ผู้เรียนจะต้องร้องขอและต้องทำสัญญาประชาคม (social contract) โดยมีสาระสำคัญว่า หากจะร้องขอเพื่อรับการประเมินใหม่ ผู้เรียนจะต้องแสดงให้เห็นหลักฐานที่เหมาะสมและเชื่อถือได้ว่า ตนเองได้ศึกษาและพัฒนาเรื่องนั้น ๆ เพิ่มเติมแล้วและเชื่อมั่นว่าตนเองทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม (พิจารณาจากเกณฑ์ความก้าวหน้า)
กรณีเกณฑ์กระบวนการ การประเมินปัจจัยกลุ่มที่ 2 จะมีขึ้นเป็นระยะ ๆ แต่จะไม่นำผลการประเมินเหล่านั้นมาคิดคำนวณเกรดตามหลักการประเมิน (ทั้งนี้อาจนำไปคิดเกรดรวมได้แต่ขึ้นกับข้อตกลงร่วมระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน)
เครื่องมือวัดผล เครื่องมือวัดคุณภาพผลงานจะถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนให้สอดคล้องกับหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งจะบ่งชี้ระดับความสามารถของผู้เรียนตามผลลัพธ์การเรียนรู้ (CLOs) ทั้งนี้เครื่องมือวัดทั้งหมดจะอยู่ที่หน้าเว็บนี้ (ดูด้านล่าง) และผู้เรียนสามารถเข้าไปดูและทำความเข้าใจก่อนทำผลงานได้ทันที การทำเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้สอนต้องการให้ผู้เรียนแสดงความสามารถของตนผ่านผลงานเพื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ อย่างเต็มที่และมีคุณภาพมิใช่เพียงแค่การส่งงานให้ครบ
เครื่องมือวัด (Measurement Tools)
ในการประเมินการเรียนรู้ และระบุระดับการเรียนรู้ต้องอาศัยเครื่องมือวัด (measurement tools) ตารางต่อไปนี้ระบุเครื่องมือวัดที่สอดคล้องกับความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่ผู้เรียนจะต้องแสดงให้เห็นเชิงประจักษ์ ซึ่งเกณฑ์การเรียนรู้ข้างบนจะระบุเครื่องมือที่จะใช้ไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้เกณฑ์เปรียบเทียบ (benchmark) แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับคำหรือข้อความและตัวอย่างเพื่อเป็นแนวทางให้การประเมินตรงตามความเป็นจริง
การประเมินผลและตัดสินผลเกรด (Evaluation & Grading)
หลังจากบันทึกผลการประเมินปัจจัยกลุ่มที่ 1 ผ่านผลงานของผู้เรียนแล้ว ผู้เรียนจะประเมินผล (evaluation) และกำหนดระดับความสามารถและเกรดที่สอดคล้องกันด้วยตนเองภายใต้การกำกับของผู้สอน เกรดที่ถูกต้องควรมาจากการตัดสิน/ประเมินผลอย่างมืออาชีพ (professional judgement) โดยมีองค์ประกอบ 3 ประการดังนี้
ระดับเกรด (ปัจจัยกลุ่มที่ 1)
การประเมินเพื่อตัดสินผลลัพธ์ในรายวิชานี้แบ่งออกได้ 8 ระดับเกรด ดังตารางข้างล่างซึ่งแสดงถึงความเข้าใจและทักษะของผู้เรียนตามแบบบันทึกการประเมินความก้าวหน้าการเรียนรู้ โดยอาศัยหลักการเส้นโค้งการเรียนรู้ (learning curve) ที่แสดงด้วยสมการกำลัง (power equation) ซึ่งระดับที่คาดหวัง(หรือเหนือกว่า) คือ ชำนาญ/สันทัด (ผ่านมาตรฐาน)* ผลที่ได้จากสมการกำลัง คือ ระดับคุณภาพโดยอิงกับ
- หลักฐาน/ร่องรอยการเรียนรู้ (evidence of learning)
- ระดับมาตรฐานความสามารถ (performance standards)
- แนวทางการได้มาซึ่งเกรดที่ชัดเจน (clear guidelines of grading)
ช่วงคุณภาพ | ระดับผลสัมฤทธิ์ | ความหมาย | รหัส | ตัวเลข | ระดับเกรด |
---|---|---|---|---|---|
3.51-4.00 | เชี่ยวชาญ (advanced) | ผู้เรียนแสดงความรอบรู้ (Mastery) อย่างลึกซึ้งและกว้างเหนือกว่าระดับมาตรฐานที่ต้องบรรลุ (Proficient) ในความรู้และทักษะในผลลัพธ์การเรียนรู้ได้อย่างครบถ้วนทั้งในระดับง่ายและซับซ้อน สามารถเชื่อมโยงความรู้ ความเข้าใจ หรือความเชี่ยวชาญของตนเข้ากับศาสตร์สาขาอื่นที่เกี่ยวข้องจนเป็นภาพใหญ่เชิงระบบ สามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่หลากหลาย ซับซ้อน และทำนายได้ยากนอกเหนือจากที่เรียนด้วยตนเอง และสามารถสอน ชี้แนะ แนะนำ หรือเป็นตัวอย่างให้ผู้อื่นได้ | Ad | 4.00 | A |
3.01-3.50 | ล้ำหน้า (extending) | ผู้เรียนแสดงความรอบรู้ (Mastery) อย่างลึกซึ้งและกว้างเหนือกว่าระดับมาตรฐานที่ต้องบรรลุ (Proficient) ในความรู้และทักษะในผลลัพธ์การเรียนรู้ได้อย่างครบถ้วนทั้งในระดับง่ายและซับซ้อน สามารถเชื่อมโยงความรู้ ความเข้าใจ หรือความเชี่ยวชาญของตนเข้ากับศาสตร์อื่นที่เกี่ยวข้องได้ สามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่หลากหลาย ซับซ้อน และทำนายได้ยาก และสามารถสอน ชี้แนะ และแนะนำผู้อื่นได้ในบางเรื่อง | Ex | 3.50 | B+ |
2.51-3.00 | ชำนาญ* (proficient) | ผู้เรียนแสดงให้เห็นถึงความรอบรู้ในความรู้และทักษะในผลลัพธ์การเรียนรู้ได้อย่างครบถ้วนทั้งในระดับง่ายและซับซ้อนตามมาตรฐานที่กำหนด และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์หลากหลาย ซับซ้อน และทำนายได้ตามที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเองหรือด้วยคำแนะนำเฉพาะเท่าที่จำเป็นจากผู้มีประสบการณ์ และสามารถแลกเปลี่ยนหรือต่อยอดความรู้หรือประสบการณ์ของตนกับผู้อื่นได้ | Pr | 3.00 | B |
2.01-2.50 | ก้าวหน้า (progressing) | ผู้เรียนแสดงให้เห็นถึงความรู้และทักษะในผลลัพธ์การเรียนรู้ได้อย่างครบถ้วนทั้งในระดับง่ายและซับซ้อนตามมาตรฐานที่กำหนด และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์หลากหลาย ซับซ้อน และทำนายได้ตามที่ได้เรียนรู้ด้วยคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ | Pg | 2.50 | C+ |
1.51-2.00 | พัฒนา (developing) | ผู้เรียนแสดงความรู้และทักษะในผลลัพธ์การเรียนรู้ได้อย่างครบถ้วนในระดับง่ายและบางส่วนในระดับซับซ้อนในรูปแบบที่ง่ายต่อการเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะดังกล่าวได้ในบางสถานการณ์ที่คุ้นชินด้วยตนเอง หรือด้วยการกำกับจากผู้มีประสบการณ์ | De | 2.00 | C |
1.01-1.50 | เริ่มมี (emerging) | ผู้เรียนแสดงความรู้และทักษะในผลลัพธ์การเรียนรู้ได้อย่างครบถ้วนในระดับง่ายและระดับซับซ้อนบางส่วนในรูปแบบที่ง่ายต่อการเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะดังกล่าวได้ในบางสถานการณ์ที่คุ้นชินด้วยการกำกับและควบคุมจากผู้มีประสบการณ์ | Em | 1.50 | D+ |
0.51-1.00 | เริ่มต้น (beginning) | ผู้เรียนแสดงความรู้และทักษะในผลลัพธ์การเรียนรู้ในระดับง่ายได้เพียงบางส่วน และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะได้บ้างในบางสถานการณ์ที่คุ้นชินภายใต้คำแนะนำการกำกับ ควบคุม และดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้มีประสบการณ์ | Be | 1.00 | D |
0.00-0.50 | ไม่มีประสบการณ์ (No evidence) | ผู้เรียนไม่แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทักษะใด ๆ ในผลลัพธ์การเรียนรู้ให้เห็นเชิงประจักษ์ | NE | 0.00-0.50 | F |
ระดับเกรด (ปัจจัยกลุ่มที่ 2)
การประเมินเพื่อตัดสินผล HOM+ แบ่งออกได้ 5 ระดับ ดังตารางข้างล่าง ทั้งนี้เราอาจไม่จำเป็นต้องตัดเกรด กรณีจำเป็นให้ใช้ค่าสถิติ 'มัธยฐาน' (median) หรือ 'ค่าเฉลี่ย' (mean) ทั้งนี้ให้ใช้มัธยฐานก่อน ระดับของ HoM+ จะได้มากจากการประเมินโดยผู้สอนและตัวผู้เรียนเอง
ช่วงคุณภาพ | ระดับผลสัมฤทธิ์ | ความหมาย | รหัส | ตัวเลข | ระดับเกรด |
---|---|---|---|---|---|
3.21-4.00 | ดีเยี่ยม (excellent) | ผู้เรียนแสดงคุณลักษณะ HoM+ อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง และคงเส้นคงวา (consistently) จนเป็นอุปนิสัยและเป็นตัวอย่างให้กับผู้อื่นได้ | Ex | 4.00 | A |
2.41-3.20 | ดี (good) | ผู้เรียนแสดงคุณลักษณะ HoM+ เป็นปกติ (usually) | Go | 3.00 | B |
1.61-2.40 | น่าพอใจ (satisfactory) | ผู้เรียนแสดงคุณลักษณะ HoM+ เป็นบางครั้งคราว ๆ (sometimes) | Sa | 2.00 | C |
0.81-1.60 | พัฒนา (developing) | ผู้เรียนแสดงคุณลักษณะ HoM+ นาน ๆ ครั้ง (rarely) | De | 1.00 | D |
0.00-0.80 | ไม่มีหลักฐาน (no evidence) | ผู้เรียนไม่แสดงคุณลักษณะ HoM+ ให้เห็น (never) | NE | 0.00 | F |